ชุดไปงานแต่ง
ชุดไปงานแต่งงานมีหลายสไตล์ให้เลือกสรร ทั้งชุดไปงานแต่ง เรียบหรู ดูแพง หรือชุดไปงานแต่งเรียบๆขึ้นอยู่กับความชอบและบุคลิกของแต่ละคนและรูปแบบของงานเองเพราะส่วนใหญ่แล้วการแต่งงานในแต่ละงานเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะออกแบบตรีมและโทนสีของชุดมาให้แขกทุกๆ ในงานอยู่แล้วเพื่อความง่าย สะดวกและทิศทางของงาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ชุดไปงานแต่งงานจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ชุดราตรียาวและชุดเดรสสั้น
ชุดราตรียาว
ชุดราตรียาว เป็นชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับงานแต่งงาน โดยมักทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหม ผ้าซาติน หรือผ้าลูกไม้ ความยาวของชุดราตรียาวจะอยู่ที่ระดับเข่าหรือต่ำกว่าเข่า เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่หรูหรา เช่น ห้องจัดเลี้ยงหรือโรงแรม
ในการเลือกชุดราตรียาวไปงานแต่ง ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- สถานที่จัดงาน หากงานแต่งงานจัดขึ้นในสถานที่หรูหรา ควรเลือกชุดราตรียาวที่ทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหมหรือผ้าซาติน ดีไซน์เรียบหรู ดูดีมีระดับ
- ช่วงเวลาของงาน หากงานแต่งงานจัดขึ้นในยามค่ำคืน ควรเลือกชุดราตรียาวที่มีเนื้อผ้าหนาหรือมีซับใน เพื่อกันไม่ให้หนาว
- บุคลิกของผู้สวมใส่ หากผู้สวมใส่มีบุคลิกที่เรียบหรู สง่างาม ควรเลือกชุดราตรียาวที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่หวือหวา หากผู้สวมใส่มีบุคลิกที่สดใส ร่าเริง ควรเลือกชุดราตรียาวที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ ทันสมัย
ชุดเดรสสั้น
ชุดเดรสสั้น เป็นชุดที่เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่สบาย ๆ เช่น สวนหรือริมทะเล ชุดเดรสสั้นมักทำจากผ้าเนื้อเบาสบาย เช่น ผ้าชีฟองหรือผ้าลินิน ความยาวของชุดเดรสสั้นจะอยู่ที่ระดับเข่าหรือสูงกว่าเข่า
ในการเลือกชุดเดรสสั้นไปงานแต่ง ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- สถานที่จัดงาน หากงานแต่งงานจัดขึ้นในสถานที่สบาย ๆ ควรเลือกชุดเดรสสั้นที่ทำจากผ้าเนื้อเบาสบาย เช่น ผ้าชีฟองหรือผ้าลินิน ดีไซน์เรียบง่าย สบาย ๆ
- ช่วงเวลาของงาน หากงานแต่งงานจัดขึ้นในยามค่ำคืน ควรเลือกชุดเดรสสั้นที่มีเนื้อผ้าหนาหรือมีซับใน เพื่อกันไม่ให้หนาว
- บุคลิกของผู้สวมใส่ หากผู้สวมใส่มีบุคลิกที่เรียบง่าย สบาย ๆ ควรเลือกชุดเดรสสั้นที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่หวือหวา หากผู้สวมใส่มีบุคลิกที่สดใส ร่าเริง ควรเลือกชุดเดรสสั้นที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ ทันสมัย
แบบชุดไปงานแต่ง
นอกจากนี้ ชุดไปงานแต่งงานยังสามารถแบ่งออกตามสไตล์ได้อีกด้วย เช่น
- สไตล์คลาสสิก เป็นสไตล์ที่เรียบหรูและดูดีมีระดับ มักทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหมหรือผ้าซาติน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่หรูหรา ชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์คลาสสิกเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับงานแต่งงาน เป็นชุดที่เรียบหรู ดูดีมีระดับ มักทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหมหรือผ้าซาติน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่หรูหรา เช่น ห้องจัดเลี้ยงหรือโรงแรม ชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์คลาสสิกมักจะมีดีไซน์เรียบง่าย เน้นไปที่การตัดเย็บที่ประณีต รายละเอียดที่หรูหรา เช่น เลื่อม ปักลูกไม้ หรือระบาย โทนสีของชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์คลาสสิกมักจะเป็นสีสุภาพ เช่น สีขาว สีดำ สีเอิร์ธโทน หรือสีพาสเทล
- สไตล์โมเดิร์น เป็นสไตล์ที่ทันสมัยและดูดีมีสไตล์ มักทำจากผ้าเนื้อเบาสบาย เช่น ผ้าชีฟองหรือผ้าลินิน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่สบาย ๆชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์โมเดิร์นเป็นสไตล์ที่ทันสมัยและดูดีมีสไตล์ มักทำจากผ้าเนื้อเบาสบาย เช่น ผ้าชีฟองหรือผ้าลินิน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่สบาย ๆ เช่น สวนหรือริมทะเลชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์โมเดิร์นมักจะมีดีไซน์เก๋ไก๋ ทันสมัย เน้นไปที่รายละเอียดที่โดดเด่น เช่น การตัดเย็บที่แปลกใหม่ ลวดลายที่สดใส หรือสีสันที่สะดุดตา โทนสีของชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์โมเดิร์นมักจะเป็นสีสดใส เช่น สีแดง สีฟ้า สีเหลือง หรือสีชมพู
- สไตล์วินเทจ เป็นสไตล์ที่คลาสสิกและดูมีเสน่ห์ มักทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหมหรือผ้าซาติน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่ที่มีบรรยากาศอบอุ่นชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์วินเทจเป็นสไตล์ที่คลาสสิกและดูมีเสน่ห์ มักทำจากผ้าเนื้อดี เช่น ผ้าไหมหรือผ้าซาติน เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่ที่มีบรรยากาศอบอุ่น เช่น สวนหรือริมทะเลชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์วินเทจมักจะมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูมีเสน่ห์ เน้นไปที่รายละเอียดที่คลาสสิก เช่น การตัดเย็บแบบดั้งเดิม ลวดลายที่อ่อนหวาน หรือสีสันที่อบอุ่น โทนสีของชุดราตรียาวไปงานแต่งสไตล์วินเทจมักจะเป็นสีสันอ่อนหวาน เช่น สีชมพู สีฟ้า สีเบจ หรือสีงาช้าง
- สไตล์เซ็กซี่ เป็นสไตล์ที่เน้นความเซ็กซี่และดูน่าดึงดูด มักทำจากผ้าเนื้อบางเบา เช่น ผ้าซีทรูหรือผ้าลูกไม้ เหมาะกับงานแต่งงานที่จัดขึ้นในสถานที่สบาย ๆ แต่อาจต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่นแขกในงาน รูปแบบงาน เพราะอาจเกิดความไม่เหมาะสมได้ในบางโอกาสซึ่งโดยทั่วไปชุดสไตล์เซ็กซี่จะถูกเลือกใช้กับงานที่จัดกันในกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มคนสนิทไปจนถึง After party หรืองานแต่งงานที่จัดขึ้นในช่วงกลางคืนโดยโทนสีและเนื้อผ้าในส่วนใหญ่มักจะใช้ในรูปแบบเดียวกันกับสไตล์อื่นๆ แต่จะเน้นไปที่การโชว์สัดส่วนเช่น ความรัดรูป ความเป็นเกาะอก หรือลูกเล่นของชุดที่โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้ง
การเลือกชุดไปงานแต่งงาน
สุดท้ายแล้วการเลือกชุดไปงานแต่งงานทั้งชุดยาวและชุดเดรสสั้น ไปงานแต่งงานควรคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ เช่น สถานที่จัดงาน ช่วงเวลาของงาน และบุคลิกของผู้สวมใส่ เพื่อให้ได้ชุดที่เข้ากับตัวและดูดีมีสไตล์มากที่สุดและเหมาะกับงานนั้นๆ เพื่อให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และราบรื่นเพราะแขกทุกๆ ท่านในงานนั้นย่อมมีความสำคัญที่ได้มาร่วมยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันสำคัญแน่นอน