ไซส์เสื้อผ้า
ไซส์เสื้อผ้า การแต่งกายนั้นเป็นอย่างแรกที่ทุกคนมองเห็นได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราต้องให้ความสำคัญในการเลือกซื้อและสวมใส่เสื้อผ้าให้พอดีกับตัวเรามากที่สุด วันนี้เรามีวิธีแนะนำเรื่องของการวัด ไซส์เสื้อ เพื่อสั่งซื้อเสื้อผ้า การสั่งซื้อเสื้อผ้าในปัจจุบันนั้นสามารถทำได้สะดวกมากขึ้น คือ เราสามารถไปลองที่ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นได้เลยโดยตรง หรือจะทำการสั่งซื้อแบบออนไลน์ก็ได้ ดังนั้นต้องทราบวิธีการวัดไซส์ที่เหมาะสมเพื่อที่เราสามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่เราสั่งซื้อได้นั่นเอง
วิธีการวัด ไซส์เสื้อผ้า
เริ่มจากการวัดไซส์ ด้วยความที่เสื้อผ้าแฟชั่นที่ขายออนไลน์ ส่วนมากจะระบุไซส์เป็น S, size m M, L, XL หรือ 2xl xxl ย่อมาจาก ขนาดไซส์เสื้อ Small (ขนาดเล็ก), Medium (ขนาดกลาง), Large (ขนาดใหญ่), Extra Large (ขนาดใหญ่พิเศษ) และ Extra Extra Large(ขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ)
เราต้องทราบวิธีการ วัดสัดส่วน ตัวเราเองก่อนว่าขนาดของร่างกายเรามีขนาดเท่าไหร่ โดยเริ่มด้วย
- การ วัดรอบอก ซึ่งจะใช้วิธีการวัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของบริเวณหน้าอก หรือบริเวณใต้รักแร้
- ส่วนรอบเอวให้เราวัดบริเวณที่แคบที่สุดของเอวถ้าเราต้องการเอวสูง แต่ถ้าต้องการเอวต่ำให้วัดรอบเอวที่ต่ำกว่าสะดือ 1 นิ้ว
- วัดสะโพก รอบสะโพกให้ใช้หลักการเดียวกับการวัดรอบอกคือวัดบริเวณที่ใหญ่ที่สุดของสะโพก หรือวัดจากรอบเอวลงมา 7 นิ้วจะเป็นสะโพกพอดี
โดยเราสามารถใช้ได้ทั้งหน่วยเซนติเมตรหรือนิ้วก็ได้ ซึ่งการแปลงหน่วยในกรณีที่เราทราบเป็นเซนติเมตรให้เราหารด้วย 2.54 ให้กลายเป็นนิ้วได้เลย อย่าลืมเผื่อความคลาดเคลื่อนจากการวัดไว้ด้วย 2-3 เซนติเมตรในกรณีที่ผ้ามีความยืดตัวหรือหดตัวที่ต่างกันในแต่ละอุณหภูมิหรือผ้ายืดประเภทต่างๆ วัดไซส์เสื้อ ผู้หญิง
วิธีวัด ไซส์เสื้อผ้า มีดังนี้
1.เตรียมอุปกรณ์
อุปกรณ์ที่จำเป็นในการวัดไซส์เสื้อผ้า ได้แก่ สายวัดแบบอ่อน ปากกา และกระดาษ
2.ยืนตัวตรง
ยืนตัวตรงและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ไม่ควรเกร็งตัวขณะวัด
3.วัดรอบอก
วิธีวัดรอบอก วัดรอบส่วนที่กว้างที่สุดของทรวงอก โดยให้สายวัดขนานกับพื้นและอยู่ใต้รักแร้
4.วัดรอบเอว
วิธีวัดรอบเอว วัดรอบส่วนที่เล็กที่สุดของลำตัว โดยให้สายวัดขนานกับพื้น ขนาดรอบเอว
5.วัดรอบสะโพก
วิธีวัดสะโพก วัดรอบส่วนที่กว้างที่สุดของสะโพก โดยให้สายวัดขนานกับพื้น
6.วัดความยาวเสื้อ
วัดจากมุมคอเสื้อลงไปจนถึงปลายชายเสื้อด้านล่าง ขนาดเสื้อผ้า
7.วัดความยาวแขน
วัดความยาวเสื้อ วัดจากจุดเริ่มต้นของไหล่ลงไปจนถึงปลายข้อมือ
8.วัดรอบข้อมือ
วัดรอบส่วนที่เล็กที่สุดของข้อมือ
9.บันทึกผลวัด
บันทึกผลวัด ขนาด ไซส์ แต่ละส่วนลงในกระดาษ
10.เปรียบเทียบกับตารางไซส์เสื้อผ้า
เปรียบเทียบผลวัดกับตารางไซส์เสื้อผ้าของแบรนด์หรือร้านค้านั้นๆ
เคล็ดลับในการวัดไซส์เสื้อผ้า
- ควรสวมชุดชั้นในหรือเสื้อผ้าชิ้นบางๆ ขณะวัด เพื่อไม่ให้ผลวัดคลาดเคลื่อน
- ควรวัดซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าได้ขนาดที่ถูกต้อง
- ไม่ควรดึงรั้งสายวัดขณะวัด เพราะจะทำให้ได้ขนาดที่ใหญ่กว่าความเป็นจริง
ขนาดของเสื้อผ้านั้นจะมีความแตกต่างกันในแต่ละส่วนตั้งแต่
- ความยาวของเสื้อ
- ความยาวแขนเสื้อและ
- ความยาวของรอบอก
ตัวอย่างตารางไซส์เสื้อผ้า
SIZE S รอบอก 80 ซม. (32 นิ้ว) เอว 65 ซม. (26 นิ้ว) สะโพก 85 ซม. (34นิ้ว),
SIZE M รอบอก 85 ซม. (34 นิ้ว) เอว 70 ซม. (28นิ้ว) สะโพก 90 ซม. (36 นิ้ว) ไซส์m ขนาดเท่าไหร่
SIZE L รอบอก 90ซม. (36 นิ้ว) เอว 75 ซม. (30 นิ้ว) สะโพก 95 ซม. (38 นิ้ว) ไซส์lขนาดเท่าไหร่
ตารางไซส์เสื้อผ้า
ตารางไซส์เสื้อ ผ้าแต่ละแบรนด์หรือร้านค้าอาจมีความแตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ไซต์เสื้อ ผ้าจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
- ไซส์ตัว หมายถึง ขนาดของลำตัว แบ่งออกเป็น รอบอก รอบเอว และรอบสะโพก
- ไซส์แขน หมายถึง ขนาดของข้อมือ
- ไซส์ความยาว หมายถึง ขนาดของความยาวเสื้อและความยาวแขน
การวัดไซส์เสื้อผ้า
การวัดไซส์เสื้อ ควรที่จะต้องทราบขนาดของตัวเราเองไว้ก่อนเพื่อป้องกันการใส่ไม่ได้ ส่วนการ วัดขนาด ของเสื้อผ้านั้น วิธีวัดขนาดเสื้อ จะวัดจากปลายสุดด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งแล้วเอาความยาวที่ได้คูณสองได้เลยก็จะได้ความยาวของแต่ละส่วนของเสื้อ ซึ่งเราสามารถเอาความยาวส่วนนี้มาเทียบกับร่างกายของเราได้ทันทีแล้วแต่หน่วยที่เราต้องการใช้ แต่อย่าลืมเรื่องของการเผื่อค่าความคลาดเคลื่อนในการวัดที่จะเกิดขึ้นด้วย ว่าบวกหรือลบไป 2-3เซนติเมตร เสมอแต่เพื่อความมั่นใจว่าสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้พอดีหรืออยากให้เผื่อขนาดของเสื้อผ้าเกินจากร่างกายของเราไว้ 1-2 นิ้วเสมอจะได้สวมได้อย่างมั่นใจไม่ดูคับจนเกินไป
ติดตามเราได้ที่ : https://fashionclothesth.com/
อ่านบทความเพิ่มเติม : ทรงผมผู้หญิง